แจกวิธีการเลือกผงปรุงรส ผงเขย่า สำหรับ แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร

วิธีการเลือกผงปรุงรส ผงเขย่า สำหรับ แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร

การทำอาหารนั้น นอกจากจะต้องเรียนรู้ ฝึกขัดเกลาฝีมือให้อาหารออกมาดีที่สุดและรสชาติอร่อยแล้วนั้น การเลือกวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารในอาชีพของเหล่าพ่อค้า แม่ค้า และร้านอาหารก็สำคัญมาก ๆ เช่นกัน โดยเราจะพูดถึงหนึ่งในวัตถุดิบที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ในการประกอบอาหารเลยก็คือ “ผงปรุงรส” หรือ “ผงเขย่า” นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นที่นิยม และเป็นตัวช่วยในการใช้ประกอบอาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภท อบกรอบ หรือเมนูทอดต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายนั้น ล้วนใช้ผงปรุงรสเพื่อเพิ่มรสชาติของอาหารให้มีความอร่อย นัว เข้มข้นมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการน้ำมาประกอบการค้าขายในร้านค้าของคุณพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า และร้านอาหารที่ดีมาก ๆ อีกด้วย

วันนี้เราจึงมาแจกวิธีการเลือกผงปรุงรส ผงเขย่า สำหรับ แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ว่าเลือกอย่างไรให้ปัง คุ้มค่าที่จะเลือกซื้อรสชาตินั้น ๆ มาใช้ในการประกอบอาหารในร้าน เพื่อมัดใจคุณลูกค้าของเราให้กลับมาอุดหนุน และใช้บริการของเราใหม่อีกครั้งในเวลาถัดมา โดยเราจะขอแนะนำผงปรุงรส ผงเขย่าของ ชีสโตะ ชีสโตะจัง ของพวกเราเพียวฟู้ดส์ แบรนด์ยี่ห้อของซอสปรุงรส น้ำจิ้ม และผงเขย่าที่เป็นที่นิยมของหลาย ๆ คน เนื่องจากเป็นวัตถุดิบปรุงรสอาหารมีทั้งคุณภาพที่ดีเยี่ยม ราคาย่อมเยา ไม่แพง และที่สำคัญคือรสชาติอร่อย สะอาด เหมาะกับการปรุงอาหารหลากหลายประเภท

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับ ผงปรุงรส ผงเขย่าของ ชีสโตะ ชีสโตะจัง ว่ามีรสชาติอะไรบ้าง พร้อมกับคำแนะนำที่จะนำไปใช้ในการประกอบอาหารประเภทใด เราจะขอให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกผงปรุงรสก่อน ว่ามีวิธีการเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับการเปิดร้านอาหารอย่างมีคุณภาพมากที่สุด

1. เลือกให้สอดคล้องกับอาหารในร้านของเรา การเลือกผงปรุงรสที่ดีนั้น ควรจะพิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนที่เราเลือกว่าจะทำธุรกิจอาหารอะไร และประเภทไหน พอถึงขั้นตอนการเลือกผงปรุงรส ผงเขย่า จะได้สามารถตัดสินใจต่อไปได้ว่าเราควรจะใช้รสชาติไหน เพื่อที่จะได้นำมาใช้ในการประกอบอาหารของเราได้อีกที เพื่อที่จะให้ตัวของผงปรุงรสกับอาหารของเรานั้นมีความเข้ากัน ออกมามีรสชาติที่อร่อยและดูดีไปพร้อม ๆ กัน โดยทั้งหมดนี้จะทำให้อาหารของเรานั้นออกมาดี เตะตา โดนใจลูกค้าของเรามากที่สุด
2. คุณภาพและราคา ก่อนที่จะเลือกรสชาตินั้น เราต้องศึกษาและมั่นใจก่อนว่า แบรนด์หรือยี่ห้อของผงปรุงรส ผงเขย่า ที่เราเลือกที่จะนำมาใช้นั้นมีทั้งคุณภาพที่ดี ราคาที่ย่อมเยา ไม่แพงจนเกินไป เพื่อที่จะได้ลดต้นทุนในการเลือกซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ เป็นการเพิ่มโอกาสในการได้กำไรสูงขึ้นจากการค้าขายไปในตัว และเพิ่มคุณภาพอาหารให้กับร้านของเราด้วยเช่นกัน โดยตัวของผงปรุงรส ผงเขย่านั้นอาจจะมีหลากหลายขนาดและราคา ตัวผู้บริโภคนั้นจึงต้องเป็นผู้ตัดสินใจเลือกซื้อขนาดที่เหมาะสมกันต่อไป เช่น ถ้าผู้บริโภคต้องการจะเปิดร้านอาหารสักหนึ่งร้านโดยอาจจะเป็นร้านที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เป็นขนาดกลาง ๆ ก็อาจจะเลือกซื้อขนาดที่เล็กไปจนถึงขนาดกลาง เพื่อที่ว่าจะได้ควบคุมปริมาณตัววัตถุดิบได้ง่าย และสะดวกต่อการใช้งานด้วย
3. รสชาติ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งไม่แพ้เรื่องราคาของ ผงปรุงรส ผงเขย่าเลยก็คือเรื่องของรสชาติ รสชาติต้องอร่อยติดลิ้น เมื่อโรยผงเขย่าลงไปในอาหารของเราแล้วต้องช่วยชูรสของอาหารเราออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังต้องเลือกใช้รสชาติของผงปรุงรส ผงเขย่าให้เข้ากับสินค้าอาหารที่เราจะขายด้วย โดยชีสโตะ ชีสโตะจัง จะมีรสชาติให้เลือกนำไปใช้ประกอบอาหารกันอย่างหลากหลาย และอาจจะเลือกเป็นรสชาติที่เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป ทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มที่จะเลือกซื้อรสชาตินั้น ๆ มาใช้ในการประกอบอาหารในธุรกิจการค้าขาย ทีนี้เราก็จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ราคาย่อมเยา แถมอร่อยด้วย เรียกได้ว่าครบสูตรในการเลือกซื้อวัตถุดิบเลย
4. ส่วนผสมของผงปรุงรส ผงเขย่า เนื่องจากผงปรุงรสต้องมีรสชาติที่อร่อย ในขั้นตอนการผลิตจึงอาจจะใส่ส่วนประกอบบางอย่างเพื่อให้กลิ่นและรสชาติออกมาเหมือนรสชาติที่ระบุไว้หน้าบรรจุภัณฑ์มากที่สุด แต่ถึงรสชาติจะอร่อยและเหมือนที่ระบุไว้ ก็ใช่ว่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพเสมอไป การเลือกใช้ผงปรุงรส ผงเขย่านั้นจึงจำเป็นที่ต้องศึกษาและดูส่วนผสมที่อยู่ด้านหลัง หรือตัวฉลากของสินค้านั้นก่อนที่จะเลือกซื้อ โดยที่เราจะขอแนะนำให้เลือกสินค้าที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เนื่องจากจะทำให้รสชาติอร่อยแล้ว ยังดีต่อสุขภาพ และส่งผลเสียต่อสุขภาพได้น้อยที่สุด
5. การได้รับการรับรองว่าได้มาตรฐาน สินค้าที่ได้รับการรับรองว่ามีคุณภาพที่ดีและได้มาตรฐานนั้นจะต้องมีฉลากกำกับอยู่บนตัวซอง หรือบนตัวผลิตภัณฑ์ โดยนอกจากส่วนผสมต่าง ๆ.ที่นำมาผสมปรุงแต่งรสชาติให้มีรสชาติที่อร่อย และกลิ่นที่หอมแล้วนั้น ผู้บริโภคควรที่จะต้องตรวจเช็คด้วยว่าตัวสิ้นค้าที่เรากำลังจะเลือกมาใช้นั้นมีการรับรองคุณภาพสินค้าแล้วรึยังด้วย ซึ่งการรับรองที่ว่ามานั้นจะทำให้ตัวแบรนด์ของสินค้านั้นมีความน่าเชื่อถือขึ้นไปอีกระดับ อีกทั้งทางฝั่งผู้บริโภคเองก็จะรู้สึกปลอดภัย และสบายใจที่จะนำตัวของผงปรุงรส ผงเขย่าของแบรนด์นั้นมาใช้ในการประกอบเมนูอาหารในการทำธุรกิจกันต่อไปด้วย โดยที่เราจะเห็นกันได้ทั่วไป เห็นกันอยู่ส่วนใหญ่นั้นจะมี เคราองหมาย อย.ที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นการรับรองถึงคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัยของสินค้านั้น ๆ และต่อมาก็คือเครื่องหมายมาตรฐานอาหารฮาลาลหรือสัญลักษณ์ฮาลาลเพื่อรับรองให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามสามารถบริโภคสินค้านั้น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและสบายใจได้ว่าเป็นไปตามหลักการและข้อกำหนดของทางศาสนา โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านภัตตาคารต่าง ๆ ต้องเอาใจใส่เป็นอันดับแรก ๆ ก่อนที่จะเปิดร้านกันเลย เพราะนอกจากจะถูกหลักอนามัยแล้ว ยังเป็นเครื่องช่วยยืนยันด้วยว่า ร้านของเรานั้นใช้วัตถุดิบ เครื่องปรุงรสที่มีคุณภาพ
6. บรรจุภัณฑ์ของผงปรุงรส ผงเขย่า เนื่องจากตัวผลิตภัณฑ์ที่เรานำมาแนะนำนี้มีลักษณะเป็นผงตามที่ชื่อได้กล่าวไว้ การเก็บรักษาอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก และถ้าหากว่าเราเก็บรักษาไว้ได้ไม่ดีพอ อาจจะทำให้ตัวผงปรุงรสของเรานั้นเกิดเสียขึ้นมาได้ การเลือกบรรจุภัณฑ์ของตัวผงปรุงรสนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเป็นถุงที่มีซิปล็อคที่สามารถปิดสนิทได้ เพื่อความสะดวกสบายง่ายต่อการจัดเก็บ ง่ายต่อการนำมาใช้ปรุงแต่งรสชาติอาหารในร้าน และเพื่อที่จะรักษาคุณภาพของผงปรุงรสให้อยู่กับเราไปได้อีกนาน ๆ ซึ่งแบรนด์ของชีสโตะ ชีสโตะจัง ก็จะมีผลิตภัณฑ์ผงปรุงรสที่ตัวบรรจุภัณฑ์นั้นเป็นแบบถุงซิปล็อค สะดวกต่อการนำมาใช้งานค้าขาย สามารถเปิดนำผงมาโรยปรุงรสอาหาร และปิดเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งยังง่ายต่อการเก็บรักษาไว้ใช้ในครั้งถัดไปอีกด้วย
7. หนึ่งรสชาติสามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย การเลือกผงปรุงรสที่ดีนั้น ควรจะพิจารณาตั้งแต่ขั้นตอนที่เราเลือกว่าจะทำธุรกิจอาหารอะไร และประเภทไหน เนื่องจากว่าเราจะได้มาคิดกันต่อว่าอาหารที่เราจะเริ่มทำค้าขายนั้นจำเป็นต้องมีวัตถุดิบอะไรบ้าง อาจจะเป็นธุรกิจอาหารประเภท ต้ม นึ่ง ผัด แกง ทอด หรือว่ายำเป็นต้น โดยจะมีตั้งแต่วัตถุดิบหลักไปจนถึงวัตถุดิบรองอย่างของจำพวกเครื่องปรุงรส และผงปรุงรส ผงเขย่านานาชนิด หลากหลายรสชาติ เช่น ถ้าธุรกิจร้านอาหารของเราเลือกที่จะทำอาหารประเภทของทอด เราก็สามารถใช้ผงปรุงรส หรือผงเขย่ารสชีสได้กับทุก ๆ เมนูของเราเลย นับว่าเป็นการเลือกซื้อที่สะดวก ง่ายต่อการจัดวัตถุดิบ และจะเป็นการประหยัดต้นทุนของเราไปในตัวด้วย เพราะในหนึ่งถุงหนึ่งรสชาติที่เราเลือกนำมาใช้ สามารถประกอบอาหารได้หลายชนิด หลายเมนู นับว่าเป็นความคุ้มอีกอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการ
8. สำรวจตลาด และความนิยมของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้น นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ก่อนที่จะเลือกทำธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารของพ่อค้าแม่ค้า หรือการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจดำเนินและเป็นไปได้ด้วยดี ค้าขายดี คืนทุน ได้กำไรได้ง่ายขึ้น โดยพิจารณาจากตลาดธุรกิจอาหารตอนนี้ว่า อาหารอะไร อาหารประเภทใดกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และอาจจะเป็นที่นิยมกันต่อไปอีกเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น ถ้าช่วงระยะเวลานี้ของทอดกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เราอาจจะมาลงลึกเรื่องของทอดกันต่อ โดยอาจจะเป็นเรื่องที่ว่า ของทอดชนิทนั้นจะเป็นอะไรดี อาจจะเป็นไก่ทอด ผักทอด เฟรนช์ฟรายส์ นักเก็ต และอื่น ๆ อีกมากมายให้เราเลือกนำมาประกอบอาชีพค้าขาย และเราจะใช้ตัวผงปรุงรสรสชาติอะไรที่จะนำไปประกอบอาหารของทอดเหล่านั้นให้มีความเข้ากันมากที่สุด โดยรสชาติของผงปรุงรสนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กันกับชนิดของอาหาร ตรงที่ว่าเราต้องมาศึกษาตลาดเช่นกัน ว่าช่วงเวลานั้นผงปรุงรสรสชาติอะไรที่เป้นที่นิยมที่สุดในช่วงเวลานั้น โดยทั้งหมดนี้จะเป็นเพิ่มยอดขาย และโอกาสเติบโตในธุรกิจของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รสชาติต่าง ๆ ของผงปรุงรส ผงเขย่าชีสโตะ ชีสโตะจัง

            เมื่อตัดสินใจเลือกประเภทของอาหารที่จะทำในธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเรียบร้อยแล้ว ถัดไปก็จะเป็นการเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกรสชาติของผงปรุงรส ผงเขย่า ให้เข้ากับอาหารของเรา โดยที่เราจะขอแนะนำรสชาติต่าง ๆ ของชีสโตะ ชีสโตะจัง พร้อมกับแนะนำเมนูต่าง ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับรสชาติของผงเขย่านั้น ๆ ด้วย ซึ่งจะมีหลากหลายรสชาติให้เลือกใช้มาก อาจจะเป็นรสชาติที่มีความเค็มนำ หวานนำ ไปจนถึงรสชาติที่มีความเผ็ดนิด ๆ อยู่ด้วย แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกรสชาตินั้นก็คือความนัว เป็นผงปรุงรส ผงเขย่าที่ทานกับอะไรก็อร่อย เมื่อนำไปใช้ประกอบอาหารในร้านของเรา รับรองได้เลยว่าลูกค้าต้องกลับมาอุดหนุนซ้ำ เกิดเป็นร้านที่ขายดีขึ้นมาได้อย่างแน่นอน และเมื่อเลือกรสชาติสามารถที่จะนำไปใช้ประกอบอาหารของเราได้ตามคำแนะนำที่ให้ไว้ข้างต้นกันได้เลย

ซึ่งรสชาติที่จะขอแนะนำให้พ่อค้า แม่ค้า ร้านอาหาร หรือผู้ใดก็ตามที่กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารอยู่ได้รู้จัก และสามารถเลือกมาใช้กันได้จะมีหลากหลายรสชาติมาก แต่ละรสชาตินั้นก็จะมีจุดเด่นกับความอร่อยที่ไม่เหมือนไม่ซ้ำกัน มีดังนี้

1. ผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะ คือผงเขย่ารสชาติแรก และเป็นรสชาติอันดับหนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ถูกใจทุกเพศทุกวัย เพราะด้วยความนัว ความหอม ความหวานนิดและเค็มกำลังดี รวมกันออกมาเป็นรสชาติที่กลมกล่อม ทำให้เข้าถึงรสชาติของชีสได้อย่างเต็มที่ และได้มีการคิดค้นให้ตัวของผงชีสนั้นสามารถเคลือบติดอยู่กับตัวอาหารของเราได้ นำไปใส่กับเมนูทอดต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายมากมาย มีสีสันที่สวยงาม สีเหลืองส้มสดใส ช่วยเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารของเราได้ อีกทั้งยังสามารถเข้ากันได้กับ ผงเขย่าตราชีสโตะรสชาติอื่น ๆ และผลิตภัณฑ์ชนิดที่เป็นซอสต่าง ๆ ของเพียวฟู้ดส์ได้เป็นอย่างดี เช่น ชีสโตะ รส Four cheese หรือ ชีสโตะ ชีสซี่ดิป เพื่อตอกย้ำความเป็นชีสมากขึ้น ช่วยให้รสชาติชีสของผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะนั้นดูเข้มข้น นัว และอร่อยติดลิ้นมากขึ้นกว่าเดิมขึ้นไปอีก

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงปรุงรส ผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะ ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อย น่าทาน มีความหวาน หอม นัวชีส มีรสชาติอร่อยขึ้นจากเดิม ที่เราจะขอนำมาแนะนำ ได้แก่ เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด นักเก็ตไก่ ผักทอด และของทอดอื่น ๆ อีกมากมายหลายชนิด เมื่อทอดเสร็จแล้วเรียบร้อยให้พักไว้ก่อนสักพักเพื่อสะเด็ดน้ำมันออกจากตัวของทอดของเรา หลังจากนั้นก็ใช้ผงปรุงรส ชีสโตะ ผงเขย่ารสชีสของเรานั้นเทใส่ลงไปในของทอดที่จัดไว้ในภาชนะของเราได้เลย แค่นี้ก็จะทำให้ของทอดของเราออกมาดูมีสีสัน น่ากิน แถมยังอร่อยอีกด้วย สามารถนำไปทำเพื่อรับประทานเองได้ง่าย ๆ ได้เมนูโปรดที่ไม่ซ้ำใคร หรืออาจจะนำไปประกอบอาหารใช้ในการค้าขาย สำหรับพ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ที่กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร ก็สามารถทำได้เช่นกัน รับรองว่าขายดิบขายดี มีกำไรกันอย่างแน่นอน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก ซึ่งผงเขย่ารสชีส ตราชีสโตะ จะมีทั้งหมด 2 ขนาดด้วยกัน

ขนาดแรกจะเป็นขนาด 20 กรัม สำหรับผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้าที่เปิดร้านขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง เนื่องจากเป็นขนาดที่สะดวกต่อการนำมาใช้ประกอบอาหาร เป็นถุงซิปล็อคที่ง่ายต่อการจัดเก็บ และสามารถกะปริมาณให้พอดีกับอาหารที่เราขายได้ในแต่ละวันได้ง่าย โดยสามารถจัดเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม

ส่วนขนาดที่ 2 จะเป็นขนาด 500 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันทั้งครอบครัว พ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความคุ้มค่าคุ้มราคากว่าการสั่งขนาดเล็ก และนำไปใช้ประกอบอาหารได้เป็นปริมาณมาก นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะ นั่นก็คือ เฟรนช์ฟรายส์พิซซ่าชีส โดยเริ่มจากการเลือกมันฝรั่งที่ใหม่ ถูกเก็บเกี่ยวก่อนที่จะสุกเต็มที่ ทำให้มีผิวที่บาง สามารถหั่นเป็นชิ้นยาวขนาดพอดีคำได้ง่าย เหมาะแก่การนำมาหั่นให้เป็นชิ้นยาวแล้วนำไปทอด แต่ก่อนที่จะนำไปทอดได้เราต้องผสมแป้งชุบทอดซะก่อน โดยการนำชามมาใช้ในการใส่แป้งทอดกรอบผสมกับน้ำเย็นจัด แล้วคนให้แป้งละลายดี แล้วจึงนำมันฝรั่งที่เราหั่นเป็นชิ้นยาวพอดีคำไปชุบแป้งให้ทั่ว นำไปทอดในน้ำมันร้อนให้มีสี่เหลืองทอง เสร็จแล้วนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมันให้มีสีเหลืองทอง แล้วนำมาวางพักไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน จัดวางขึ้นภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นก็ราดซอสพิซซ่า ของชีสซี่ดิปรสพิชช่า แล้วโรยด้วยผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะ เพียงเท่านี้เราก็จะได้เมนู เฟรนช์ฟรายส์พิซซ่าชีส กันแล้ว ตัวเมนูนี้จะมีความอร่อยมันของมันฝรั่งที่มีรสชาติ รสสัมผัสที่ดีเยี่ยม กรอบนอกนุ่มใน และหวานมัน เค็มนิด เปรี้ยวหน่อยของรสชาติซอสพิซซ่า และได้ความหอมของผงเข่ารสชีสเข้าไปอีก เรียกได้ว่าให้ความรู้สึกเดียวกับการทานพิซซ่าเป๊ะ ๆ หรืออาจจะโรยออริกาโน่เพื่อตกแต่งหน้าตา แต่งกลิ่นเพิ่มเข้าไปอีกก็นับว่าเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยมและไม่เลวเลยล่ะ

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ ไก่ป๊อปชีสที่โรยด้วยผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะอีกที ซึ่งไก่ป๊อปนั้นจะเป็นไก่ทอดชิ้นเล็ก ๆ มีขนาดที่พอดีคำ ที่เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดยอดนิยมทั้งของชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากสามารถเป็นได้ทั้งของทานเล่น ไปจนถึงการเป็นกับแกล้มที่มีรสชาติเอร็ดอร่อย ซึ่งส่วนผสมที่เราต้องจัดเตรียมกันจะมีดังนี้ ได้แก่ เนื้อไก่ พริกไทย เกลือ มอสซาเรล่าชีส แป้งสาลี ไข่ไก่ เกล็ดขนมปัง และน้ำมันสำหรับทอด โดยเริ่มจากการใช้มีดเลาะหนังไก่ออก แล้วตัดเนื้อไก่ให้เป็นชิ้นที่มีขนาดพอดีคำ ไม่ใหญ่แล้วก็ไม่เล็กจนเกินไปเนื่องจากว่าเราต้องนำมาห่อกับมอสซาเรล่าชีส แล้วหลังจากที่หั่นเนื้อไก่เสร็จแล้วให้เตรียมชามผสม ใส่เนื้อไก่ที่เราหั่นไว้เป็นชิ้น ตามด้วยพริกไทย และเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นก็นำไก่ที่เราเตรียมไว้มาห่อชีสทีละชิ้นจนครบทุกชิ้น แล้วก็เตรียมชามเพื่อผสมแป้งชุบแป้งทอด ใส่แป้งสาลี ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน และ เกล็ดขนมปัง อย่างละชาม และเมื่อทุกอย่างพร้อมหมดแล้วก็ทำการตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วม เปิดไฟกลางแล้วรอจนไก่ร้อนกำลังดีแล้วค่อยนำไก่ที่เตรียมไว้ ชุบแป้งสาลี ไข่ไก่ และ เกล็ดขนมปังตามลำดับ แล้วก็นำลงไปทอดให้มีสีเหลืองทอง และเนื้อไก่สุกทั่วถึงกันดี นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน นำขึ้นภาชนะแล้วโรยด้วยผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะก็เป็นอันเสร็จ สามารถจัดเสิร์ฟลูกค้ากันได้เลย รับรองว่าเป็นที่ถูกใจของคนทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน

2. ผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ คือผงเขย่ารสชาติถัดมาที่เรานำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักและเลือกที่จะนำไปใช้ประกอบอาหารกัน และยังเป็นสินค้าน้องใหม่จากแบรนด์ชีสโตะอีกด้วย มีกลิ่นที่หอม เมื่อเปิดซองออกมาก็จะได้กลิ่นถึงเครื่องพริกปาปริก้าหอมเตะจมูกอย่างแน่นอน รสชาติจะมีความเค็ม เน้นไปที่ความฉุนและเผ็ดเล็กน้อยที่เป็นจุดเด่นของพริกปาปริก้านี้ ส่วนจุดเด่นของซองผลิตภัณฑ์คือ ตัวละครมาสคอตพริกปาปริก้า มีความน่ารักและจดจำได้ง่าย สามารถนำไปใส่กับเมนูทอดต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายมากมาย มีสีสันที่เป็นสีส้มเข้ม ดูเข้าถึงกลิ่นและรสชาติของพริกปาปริก้าเป็นอย่างมาก ช่วยเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารของเราได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถนำไปผสมเข้ากันกับ ผงเขย่า รสชีส ตราชีสโตะ เพื่อเพิ่มความนัวและความหวานติดปลายลิ้นของชีสได้อีกด้วย ถือว่าเป็นส่วนผสม 2 ตัวที่ลงตัวกันมาก ๆ เลยทีเดียว

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงปรุงรส ผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อย น่าทาน มีความเผ็ดติดปลายลิ้นเล็กน้อยของพริกปาปริก้า ที่เราจะขอนำมาแนะนำ ได้แก่ ป๊อปคอร์น ช่วยพิ่มความอร่อยจากป๊อปคอร์นธรรมดาให้กลายเป็นป๊อปคอร์นรสปาปริก้า และของทอดอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด นักเก็ตไก่ ผักทอด เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้สามารถนำ ผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันได้ ก็จะเกิดเป็นความอร่อยอีกแบบที่ไม่ซ้ำใคร ได้ทั้งความหอม ความเค็ม และความเผ็ดติดปลายลิ้นของพริกปาปริก้า สามารถนำไปทำเพื่อรับประทานเองได้ง่าย ๆ จะทำขายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยที่ตัวผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายให้พ่อค้า แม่ค้า และร้านขาภัตตาคารของทุกคนได้อย่างแน่นอน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก ซึ่งผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ จะมีทั้งหมด 2 ขนาดด้วยกัน

ขนาดแรกจะเป็นขนาด 20 กรัม สำหรับผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้าที่เปิดร้านขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลาง เนื่องจากเป็นขนาดที่สะดวกต่อการนำมาใช้ประกอบอาหาร เป็นถุงซิปล็อคที่ง่ายต่อการจัดเก็บ และสามารถกะปริมาณให้พอดีกับอาหารที่เราขายได้ในแต่ละวันได้ง่าย โดยสามารถจัดเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม

ส่วนขนาดที่ 2 จะเป็นขนาด 500 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันทั้งครอบครัว พ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความคุ้มค่าคุ้มราคากว่าการสั่งขนาดเล็ก และนำไปใช้ประกอบอาหารได้เป็นปริมาณมาก นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ นั่นก็คือ ไก่ไร้กระดูกแซ่บซี๊ด ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างเครื่องปรุง 2 อย่าง ได้แก่ ชีสดิป มายองเนส รสเผ็ดแซ่บซี๊ด จากเพียวฟู้ดส์ และผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ เริ่มจากการนำไก่ไม่มีกระดูก หรือจะเป็นเนื้อส่วนของสันในไก่ ไปชุบกับแป้งทอดกรอบที่ผสมน้ำเย็นจัดไว้ แล้วนำไปชุบไข่และเกล็ดขนมปังให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำลงไปทอดในน้ำมันความร้อนระดับกลาง และเมื่อทอดได้เหลืองจนได้ที่แล้ว ก่อนขึ้นให้เร่งไฟให้สุด ทอดต่อไปอีกประมาณ 20 วินาทีเพื่อไล่น้ำมันออก ตัวไก่ทอดของเราจะได้ไม่อบน้ำมัน หลังจากนั้นก็นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันต่ออีกสักครู่ จึงนำชีสดิป มายองเนส รสเผ็ดแซ่บซี๊ด มาราดลงบนตัวไก่ของเรา แล้วก็โรยหน้าต่อด้วยผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ เป็นอันเสร็จพร้อมทาน หรืออาจจะทำขายก็ได้กำไรดี ติดใจกันทุกเพศทุกวัยแน่นอน รับรองว่าอร่อยติดลิ้น เพราะได้ความเผ็ดที่จุดเด่นของทั้ง 2 เครื่องปรุงนี้ช่วยชูกัน บวกความเผ็ดแซ่บ แสบซาบซ่านให้กับเมนูของเราเพิ่มขึ้นไปอีก

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ ซี่โครงหมูทอดปาปริก้า เมนูง่าย ๆ ที่รสชาติดีเยี่ยม ดูหรู ดูดีมีราคา และเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนชอบทานเนื้อติดกระดูก อีกทั้งยังทำง่าย วัตถุดิบที่ใช้น้อยแต่อร่อยมาก ๆ อีกด้วย ซึ่งวัตถุดิบที่ต้องใช้ก็จะมีดังนี้ ได้แก่ ซี่โครงหมู น้ำซอสหอยนางรม ผงปรุงรสหมู แป้งมัน รากผักชี กระเทียม พริกไทย หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของสามเกลอ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ ที่จะทำให้ซี่โครงหมูของเราออกมามีรสชาติที่จัดจ้าน ได้ความหอมของพริกปาปริก้าขึ้นไปจนถึงโพรงจมูก โดยวิธีทำก็จะเริ่มจากการนำซี่โครงหมูที่เราเตรียมไว้ไปล้างกับน้ำสะอาดแล้วพักเอาไว้ ต่อไปก็มาเตรียมซอส โดยนำน้ำซอสหอยนางรม ผงปรุงรสหมู สามเกลือที่เราตำไว้ แป้งมัน และตัวผงเขย่า รสปาปริก้า ตราชีสโตะ ใส่ลงในชามและทำการผสม คนให้เข้ากัน จากนั้นจึงทำการเทหมูที่เราพักไว้ลงไปแล้วคนให้เข้ากันเพื่อที่จะให้เครื่องปรุงทั้งหมดนั้นติดอยู่กับตัวของเนื้อซี่โครงหมูอีกที แล้วก็นำเข้าหมักของเราใส่ภาชนะที่มีฝาปิด เอาเข้าตู้เย็นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อให้เครื่องเทศทั้งหมดของเราเข้าเนื้อหมูมากที่สุด และเมื่อครบหนึ่งชั่วโมงแล้วก็ตั้งกระทะใส่น้ำมัน รอให้ไฟร้อนถึงระดับกลาง นำซี่โครงหมูที่เราหมักไว้นั้นออกมาจากตู้เย็นแล้วหย่อนลงไปทอดในน้ำมัน รอให้หมูสุกกำลังดี มีสีน้ำตาล ๆ แล้วจึงนำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันต่อให้หมาด จากนั้นสามารถนำมาทานเล่นกัน หรือนำมาขายเพื่อทำกำไรให้กับร้านค้าของเรากันได้เลย

3. ผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง อีกหนึ่งผงปรุงรส ผงเขย่ารสชาติใหม่ไฟแรงของแบรนด์ชีสโตะ เหมาะกับผู้ที่ชอบทานรสชาติจัดจ้าน มีความเผ็ด เนื่องจากผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง มาพร้อมกับรสชาติที่จัดจ้าน แซ่บสมชื่อวิงซ์แซ่บ อร่อย แตกต่าง ไม่เหมือนใคร ชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลอง บอกได้เลยว่าติดใจ ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน ด้วยความที่ตัวผงถูกผลิตคิดค้นออกมาให้มีความละเอียดสูง ทำให้ตัวของผงนั้นเคลือบติดอยู่กับตัวเมนูอาหารของเราได้ง่าย สามารถนำไปประกอบการทำอาหารได้มากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นของทอด อาหารอบกรอบต่าง ๆ มีสีสันที่เป็นสีแดงเข้ม ผสมสีส้มหน่อย ๆ เพื่อให้รับรู้ได้ถึงความเผ็ด แซ่บของความเป็นวิงซ์แซ่บ ช่วยเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารของเราได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมายของเพียวฟู้ดส์และชีสโตะจังได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นซอสดิปรสชาติต่าง ๆ หลากหลายมากมาย เช่น ซีเล็กไลท์มายองเนส , ชีสดิป ตราชีสโตะ ถุงสีส้ม , ชีสดิป สไปซี่ , ชีสโตะ รส Four cheese หรืออาจจะเป็นตัวของ ชีสโตะ สายรุ้ง เพื่อเพิ่มสีสันที่สวยงามให้กับตัวเมนูอาหารของเราได้ด้วย นับว่าตัดกันไปเลยระหว่างสีสันที่สวยงาม แต่มีรสชาติที่แซ่บและเผ็ดจากตัวผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงปรุงรส ผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ตราชีสโตะ ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อยแซ่บ เผ็ดร้อน น่าทานขึ้น ที่เราจะขอนำมาแนะนำนั่นก็คือ ไก่ทอดส่วนต่าง ๆ โดยสามารถนำทุกส่วนของไก่มาทอด อาจจะเป็นส่วนที่คนส่วนใหญ่นำมาคลุกกับผงวิงซ์แซ่บ แล้วเรานั้นก็คุ้นเคยเป็นภาพจำอย่างดี นั่นก็คือส่วนของน่องไก่นั่นเอง และส่วนอื่น ๆ ของไก่ที่มีความอร่อยไม่แพ้ส่วนน่องเลย เช่น สะโพกไก่ที่มีความนุ่มมาก สันในไก่ ปีกไก่ อกไก่ที่มีโปรตีนสูงที่สุดในตัวของเนื้อไก่ทั้งหมด เป็นต้น โดยอาจจะเป็นการทอดในน้ำมันร้อน ๆ หรือการทอดไร้น้ำมันเพื่อสุขภาพก็ได้ และเมื่อทอดเสร็จแล้วก็นำมาสะเด็ดน้ำมัน นำขึ้นจานและโรยผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจังลงไปได้เลย เหมาะกับการนำมาทำเพื่อรับประทานกันเองที่บ้าน หรือนำไปใช้ประกอบการค้าขายในส่วนของเครื่องปรุงรสก็ได้ อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก ซึ่งผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง จะมีขนาดเดียว นั่นก็คือ ขนาด 500 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันทั้งครอบครัว พ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือภัตตาคาร ร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ ถึงจะมีแค่ขนาดเดียว แต่ก็คุ้มค่าคุ้มราคา เนื่องจากมีปริมาณที่เยอะถึง 500 กรัม จึงสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารเป็นปริมาณมากได้

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง นั่นก็คือ ปีกบนไก่ทอดคลุกผงวิงค์แซ่บ ด้วยความที่เป็นเมนูคุ้นหน้าคุ้นตาของทุกคน มีหน้าตาคล้ายน่องไก่ขนาดเล็ก เริ่มจากการนำปีกไก่บนของเราไปชุบกับแป้งทอดกรอบที่ผสมน้ำเย็นจัด จากนั้นก็นำลงไปทอดในน้ำมันความร้อนระดับกลาง และเมื่อทอดได้เหลืองจนได้ที่แล้ว ก่อนขึ้นให้เร่งไฟให้สุด ทอดต่อไปอีกประมาณ 20 วินาทีเพื่อไล่น้ำมันออก ตัวไก่ทอดของเราจะได้ไม่อบน้ำมัน หลังจากนั้นก็นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันต่ออีกสักครู่แล้วจึงจัดนำขึ้นภาชนะ โรยผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจังลงไป แล้วก็เขย่า ๆ ให้ตัวของผงนั้นติดอยู่กับตัวไก่ให้ได้มากที่สุด จากนั้นก็สามารถจัดเสิร์ฟหรือนำมาทานกันกับครอบครัวได้เลย ติดใจกันทุกเพศทุกวัยแน่นอน รับรองว่าอร่อยติดลิ้น เพราะได้ความเผ็ดที่จุดเด่นของผงวิงซ์แซ่บมาช่วยชูรสชาติให้กับตัวไก่ทอดของเราได้เป็นอย่างดี และนอกจากปีกบนไก่แล้ว ยังสามารถใช้ไก่ส่วนอื่นได้ตามความต้องการ หรืออาจจะเป็นไก่ป๊อปที่ทำโดยการหั่นไก่เป็นชิ้นที่พอดีคำได้อีกด้วย

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ เกี๊ยวหมูทอดคลุกผงวิงซ์แซ่บ อีกหนึ่งเมนูที่นิยมทำขาย และเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของนักเรียนและบุคคลทุกเพศทุกวัย เมนูสร้างอาชีพ เมนูของว่างทำง่าย ต้นทุนต่ำ ทำขายกำไรดี เกี๊ยวทอดกรอบ ๆ ที่มาพร้อมกับไส้หมูสุดแสนอร่อย ทำง่าย ส่วนผสมไม่เยอะจนยุ่งยาก ได้ความอร่อยแซ่บจากผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง แถมยังใช้เวลาไม่นาน ประหยัดเวลาในชีวิตประจำวัน เป็นเมนูอาหารว่างสำหรับทำรับประทานกันเองในครอบครัว หรือจะจัดปาร์ตี้ ตัวของเกี๊ยวหมูเองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ทุกคนได้ดีเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถนำไปขายในตลาดนัด หรือขายหน้าโรงเรียน ก็ได้กำไรดี คืนทุนให้พ่อค้าแม่ค้า และร้านค้าอาหารของเราได้เร็วอย่างแน่นอน โดยวัตถุดิบที่เราต้องเตรียมจะมีดังนี้ ได้แก่ แผ่นเกี๊ยว หมูบด กระเทียม พริกไทย รากผักชี หรือที่เราเรียกกันว่าสามเกลอ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง ผงปรุงรสตัวหลักในเมนูนี้ของเรานั่นเอง โดยเริ่มจากการที่นำ รากผักชี กระเทียม พริกไทย มาตำโขลกรวมกันจนละเอียดกลายเป็นเครื่องเทศสามเกลอ จากนั้นก็ทำการปรุงไส้ของเรา โดยการนำหมูสับใส่ชาม ตามด้วยสามเกลอที่เราตำไว้ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย แล้วก็ขยำให้ส่วนผสมทั้งหมดในชามเข้ากันดี และเมื่อทำไส้เสร็จแล้ว ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการห่อไส้ด้วยแผ่นแป้งเกี๊ยว ใส่ไส้ปริมาณตามความต้องการก่อนปิดแผ่นเกี๊ยวด้วยการทาน้ำสะอาดที่ขอบให้ทั่วแล้วทำการพับแป้งเกี๊ยวเข้ามากันจนเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม และเมื่อทำการห่อเกี๊ยวทั้งหมดเสร็จแล้วเรียบร้อย ก็ถึงขั้นตอนการนำลงไปทอดในกระทะ ให้ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมัน รอให้น้ำมันร้อน จากนั้นใส่เกี๊ยวที่เราทำการห่อไว้ลงไปทอดในกระทะ พริกกลับด้านทั้ง 2 ด้าน รอให้เกี๊ยวและหมูของเราสุกได้ที่แล้วนำขึ้นมาจากกระทะ สะเด็ดน้ำมันให้หมาด แล้วโรยด้วยผงเขย่า วิงซ์แซ่บ ชีสโตะจัง เพื่อเพิ่มความแซ่บ เผ็ดติดปลายลิ้นให้กับตัวเมนูเกี๊ยวหมูทอดของเรา อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรสชาติและความอร่อยอีกด้วย

4. ผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง หนึ่งในรสชาติที่เป็นขวัญใจเด็ก ๆ ส่วนมาก รวมถึงผู้ใหญ่และบุคคลทั่วไปด้วย เพราะด้วยความที่เป็นรสชาติที่นำไปโรยปรุงรสแล้วจะมีความทานง่าย เข้าถึงง่าย ด้วยรสชาติที่หวาน เค็มอ่อน ๆ มีความหอมของหัวหอม นัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติที่ทานง่าย ไม่จัดจ้าน นำไปประกอบอาหารแล้วจะทำให้น่าทาน อีกทั้งยังมีความอร่อยที่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย เป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนถูกใจรสชาติซาวครีมนี้ และมัดใจคนทุกเพศทุกวัยจนนิยมนำไปประกอบอาหารทานเองในบ้าน หรือนำไปประกอบอาหารเพื่อการค้าขายภายในร้านได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ตัวผงถูกผลิตคิดค้นออกมาให้มีความละเอียดสูง ทำให้ตัวของผงนั้นเคลือบติดอยู่กับตัวเมนูอาหารของเราได้ง่าย สามารถนำไปประกอบการทำอาหารได้มากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นของทอด อาหารอบกรอบต่าง ๆ มีสีสันที่ออกไปทางสีขาว อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมายของเพียวฟู้ดส์และชีสโตะจังได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นซอสดิปรสชาติต่าง ๆ หลากหลายมากมาย เช่นชีสซี่ดิปของเพียวฟู้ดส์ เพื่อเพิ่มความนัวของชีสเข้าไปทำให้อร่อย สีสวยน่าทาน หรืออาจจะเป็นผงและซอสอื่น ๆ ที่มีความเผ็ด เช่น ชีสดิป มายองเนส รสเผ็ดแซ่บ ซี๊ด และ ชีสดิป สไปซี่ เพื่อเพิ่มควมเผ็ดร้อนให้กับเมนูอาหารของเราก็ได้

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อย น่าทาน มีความหวาน เค็มละมุนที่มาจากซาวน์ครีมหัวหอม ที่เราจะขอนำมาแนะนำ ได้แก่ ป๊อปคอร์น ช่วยพิ่มความอร่อยจากป๊อปคอร์นธรรมดาให้กลายเป็นป๊อปคอร์นรสซาวครีมหหัวหอมและของทอดอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด นักเก็ตไก่ ผักทอด เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้สามารถนำ ผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันได้ ก็จะเกิดเป็นความอร่อยอีกแบบที่ไม่ซ้ำใคร ได้ทั้งความหอม ความเค็ม และความหวานติดปลายลิ้นของซาวครีมหัวหอม สามารถนำไปทำเพื่อรับประทานเองได้ง่าย ๆ จะทำขายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยที่ตัวผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายให้พ่อค้า แม่ค้า และร้านค้าภัตตาคารของทุกคนได้อย่างแน่นอน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก

ซึ่งผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง จะมีขนาดเดียว นั่นก็คือ ขนาด 90 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันเอง สำหรับพ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือร้านอาหารที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เหมาะแก่การพกพาเพราะด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัด ไม่ใหญ่จนเกินไป สะดวกต่อการนำมาใช้ประกอบอาหาร เป็นถุงซิปล็อคที่ง่ายต่อการจัดเก็บ และสามารถกะปริมาณให้พอดีกับอาหารที่เราขายได้ในแต่ละวันได้ง่าย โดยสามารถจัดเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็มกันเลยทีเดียว

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจัง นั่นก็คือ มันฝรั่งเกลียวทอด ซึ่งเป็นเมนูสตรีทฟู้ดส์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับแรก ๆ ของคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศ สามารถทำทานและทำขายกันได้ง่าย ๆ ได้ประโยชน์จากการทานมันฝรั่งอีกด้วยนะ โดยเริ่มจากการเลือกมันฝรั่งที่ใหม่ ถูกเก็บเกี่ยวก่อนที่จะสุกเต็มที่ ทำให้มีผิวที่บาง สไลด์ได้ง่าย เหมาะแก่การนำมาสไลด์ให้เป็นเกลียว ๆ แล้วนำไปทอด แต่ก่อนที่จะนำไปทอดได้เราต้องผสมแป้งชุบทอดซะก่อน โดยการนำถาดขนาดใหญ่ ใส่แป้งทอดกรอบผสมกับน้ำเย็นจัด แล้วคนให้แป้งละลายดี แล้วจึงนำมันฝรั่งที่เราหั่นเป็นเกลียวไปชุบแป้งให้ทั่ว นำไปทอดในน้ำมันร้อนให้มีสี่เหลืองทอง เสร็จแล้วนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นก็นำผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจังของเรามาโรยปรุงรส ตกแต่งให้ตัวมันฝรั่งเกลียวทอดมีความน่าทานมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับทำเพื่อรับประทานกันเอง หรืออาจจะนำไปขายก็ได้กำไรดี เนื่องจากเป็นเมนูที่มีความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และนอกจากการทอดด้วยน้ำมันร้อน ๆ ในกระทะแล้ว ยังสามารถใช้วิธีการทอดด้วยหม้อทอดไร้น้ำมัน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้ด้วยนะ นับว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับสายรักสุขภาพกันเลย

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ เบค่อนกรอบรสซาวครีม เมนูของทานเล่นที่ได้ทานเมื่อไหร่ก็เพลินปากยากที่จะหยุดทานได้ หรือจะทานเป็นมื้อเช้าคู่กับขนมปัง และเครื่องเคียงอื่น ๆ เช่น ไข่ดาว มันบดหอม ๆ หรือจะทานคู่กับสลัดก็ได้ฟิลอาหารเพื่อสุขภาพไปอีกแบบ โดยวิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่มีตัวเนื้อเบค่อน พริกไทยดำ เกลือ เนย เริ่มต้นโดยการตั้งกระทะใส่เนยเล็กน้อย ไม่ต้องใช้เนยเยอะ เพราะตัวเบค่อนเมื่อทอดไปสักครู่แล้วไขมันของตัวเบค่อนจะละลายออกมาเป็นน้ำมันเพื่อทอดตัวมันเองอีกทีนึง โดยใช้วิธีการทอดไฟเบาที่สุด ทิ้งไว้จนกว่าตัวเบค่อนของเราจะเปลี่ยนสีกลายเป็นสีแดงเข้ม ซึ่งหมายความว่าเป็นการทอดเบค่อนให้ออกมามีความกรอบที่สุด และถือว่าเป็นการเอาไขมันส่วนหนึ่งของเบค่อนออกไปด้วย จะได้ทั้งความอร่อย กรอบ และไขมันที่น้อยลง และเมื่อทำการทอดจนกรอบดีเสร็จแล้วให้นำขึ้นมาวางพักไว้บนจานเพื่อให้เบค่อนทอดกรอบของเรามีความแห้ง เบค่อนจะได้มีความกรอบมากขึ้นไปอีก หลังจากนั้นก็โรยผงเขย่า ซาวครีม ชีสโตะจังลงไปเพื่อปรุงรสชาติให้หวาน เค็มอ่อน ๆ มีความหอมของหัวหอม นัว และอร่อยมากยิ่งขึ้น พร้อมสิร์ฟให้คุณลูกค้าที่น่ารักของเราได้เลย

5. ผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง อีกหนึ่งเคล็ดลับเมนูอร่อย อีกหนึ่งเครื่องปรุงรสชั้นเยี่ยมที่เป็นที่นิยมในหมู่ของเด็ก ๆ และคนทุกเพศทุกวัย ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีความหวานนำ นัว เค็มนิด ๆ รสชาติติดปลายลิ้น มีกลิ่นที่หอมข้าวโพดขึ้นไปถึงจมูก ทำให้มีความทานง่าย ใส่ได้กับทุกเมนูโปรดของทุกคนแล้วทำให้เมนูนั้น ๆ ออกมามีรสชาติที่ดีเยี่ยม อร่อย สามารถนำมาปรุงรสอาหารเพื่อรับประทานเองกันภายในบ้าน ครัวเรือน หรือนำมาใช้ประกอบการค้าขายก็ทำให้ได้กำไรงามเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ตัวผงถูกผลิตคิดค้นออกมาให้มีความละเอียดสูง ทำให้ตัวของผงนั้นเคลือบติดอยู่กับตัวเมนูอาหารของเราได้ง่าย สามารถนำไปประกอบการทำอาหารได้มากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นของทอด อาหารอบกรอบต่าง ๆ มีสีสันที่เป็นสีเหลืองอ่อน เพื่อให้รับรู้ได้ถึงความเป็นมิตรต่อทุกเพศทุกวัย มีรสชาติที่หวาน ไม่มีความเผ็ด ทานง่าย หอมกลิ่นข้าวโพด ช่วยเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อีกมากมายของเพียวฟู้ดส์และชีสโตะจังได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นซอสดิปรสชาติต่าง ๆ หลากหลายมากมาย เช่น ชีสซี่ดิป รสข้าวโพด เพื่อตอกย้ำความเป็นข้าวโพด ทั้งรสชาติและกลิ่นไปพร้อม ๆ กัน หรืออาจจะเป็นชีสดิป สไปซี่ ที่จะใส่เพื่อเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยให้กับตัวเมนูของเรา

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงปรุงรส ผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อย น่าทาน มีความหวาน หอมของข้าวโพด มีรสชาติอร่อยขึ้นจากเดิม ที่เราจะขอนำมาแนะนำ ได้แก่ เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด นักเก็ตไก่ และของทอดอื่น ๆ อีกมากมายหลายชนิด เมื่อทอดเสร็จแล้วเรียบร้อยให้พักไว้ก่อนสักพักเพื่อสะเด็ดน้ำมันออกจากตัวของทอดของเรา หลังจากนั้นก็ใช้ผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง ของเรานั้นเทใส่ลงไปในของทอดที่จัดไว้ในภาชนะของเราได้เลย แค่นี้ก็จะทำให้ของทอดของเราออกมาดูมีสีสัน น่ากิน แถมยังอร่อยอีกด้วย สามารถนำไปทำเพื่อรับประทานเองได้ง่าย ๆ ได้เมนูโปรดที่ไม่ซ้ำใคร หรืออาจจะนำไปประกอบอาหารใช้ในการค้าขาย สำหรับพ่อค้า แม่ค้า หรือผู้ที่กำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร ก็สามารถทำได้เช่นกัน รับรองว่าขายดิบขายดี มีกำไรกันอย่างแน่นอน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก

ซึ่งผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง จะมีขนาดเดียว นั่นก็คือ ขนาด 90 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันเอง สำหรับพ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือร้านอาหารที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เหมาะแก่การพกพาเพราะด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัดไม่ใหญ่จนเกินไป สะดวกต่อการนำมาใช้ประกอบอาหาร เป็นถุงซิปล็อคที่ง่ายต่อการจัดเก็บ และสามารถกะปริมาณให้พอดีกับอาหารที่เราขายได้ในแต่ละวันได้ง่าย โดยสามารถจัดเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็มกันเลยทีเดียว

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง นั่นก็คือ ข้าวโพดชุบแป้งทอดโรยด้วยผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง โดยตัวเมนูนี้จะมีความหอมของทั้งข้าวโพดจริง และมีทั้งความหอมที่มาจากตัวของผงปรุงรสข้าวโพด โดยเริ่มต้นจากการเลือกข้าวโพดที่มีคุณภาพดี สีเหลืองทอง นำมาฝานเอาแต่เนื้อที่เป็นเม็ด จากนั้นนำไปคลุกกับแป้งที่เราทำการผสมไว้โดยการใช้แป้งทอดกรอบผสมกับน้ำที่เย็นจัดเพื่อให้ได้แป้งทอดกรอบที่มีคุณภาพที่สุด ทอดออกมาจะมีความกรอบ เหลืองทอง โดยเมื่อนำข้าวโพดที่เราฝานไว้ไปชุบแป้งแล้วก็ใช้ช้อนตักเป็นขนาดพอดีคำลงไปทอดในน้ำมันไฟกลางร้อน ๆ ได้เลย และเมื่อข้าวโพดของเรานั้นทอดจนเหลืองทองได้ที่แล้วก็นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้สักครู่ แล้วหลังจากนั้นก็จัดนำลงภาชนะของเรา เสร็จแล้วก็ใช้ผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจังของเรานั้นโรยลงไปในข้าวโพดทอดได้เลย ตัวผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจัง จะช่วยตกแต่งตัวอาหารของเราให้ดูมีสีสัน มีรสชาติอร่อย และน่าทานขึ้นแบบเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับทำเพื่อรับประทานกันเอง หรืออาจจะนำไปขายก็ได้กำไรดี เนื่องจากเป็นเมนูที่มีความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ ชีสบอล และชีสสติ้ก เมนูขวัญใจเด็ก ๆ ทุกคน โดยภาพที่ทุกคนเห็นจนคุ้นตากับเมนูนี้ก็คือ เวลากัดเข้าไปแล้วดึงออกมาก็จะมีความยืดของชีสที่ซ่อนอยู่ภายในลูกบอลหรือแท่งชีสสีส้มที่ถูกนำลงไปทอดแล้วจนกรอบ สีสวยน่าทาน มีรสชาติที่นัว อร่อย ทานง่าย อีกทั้งยังหอมชีสมาก ๆ อีกด้วย ส่วนผสมก็น้อย สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย จะทำเพื่อทานเองก็ได้ หรือใครอยากเอาไปทำขายก็รับรองว่าได้กำไรดี คืนทุนกันอย่างรวดเร็ว สามารถนำไปจิ้มกับซอสมะเขือเทศเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ และซอสอื่น ๆ อีกมากมายของเพียวฟู้ดส์และชีสโตะ โดยที่ในเมนูนี้เราจะมาแนะนำการนำผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจังมาใช้ประกอบอาหารของเรากัน เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบของเราก่อน ซึ่งจะมีดังนี้ ได้แก่ มันฝรั่ง เกลือป่น มอสซาเรลล่าชีส ไข่ไก่ แป้งทอดกรอบ เกล็ดขนมปัง ขนมปังป่น และน้ำมัน โดยเริ่มจากการนำมันฝรั่งที่เราเตรียมไว้นั้นมาปอกเปลือก และนำไปนึ่งให้สุก เสร็จแล้วนำมาบดให้มันฝรั่งละเอียด ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยแล้วพักไว้ให้เย็น จากนั้นนำมอสซาเรลล่าชีสมาหั่นให้ได้ขนาดตามที่ต้องการแล้วก็นำตัวของมันฝรั่งบดที่เราทำเอาไว้มาห่อชีสที่หั่นไว้ คลึงให้เป็นรูปทรงที่เราต้องการ อาจจะเป็นลูกกลม ๆ หรือจะเป็นแท่ง ๆ ก็ได้ เพื่อที่ว่าตัวของมันฝรั่งจะช่วยห่อ ทำให้ชีสไม่ทะลักออกมา ถัดมาก็ตอกไข่ใส่ชามแล้วแล้วตีให้เข้ากัน เทแป้งทอดกรอบใส่จานแยกไว้อีกจานหนึ่ง นำมันฝรั่งมาชุบแป้ง แล้วชุบไข่ โดยที่ทำทั้ง 2 อย่างนี้ซ้ำ 2 ครั้ง แล้วนำมาคลุกกับขนมปังป่น นำมาชุบไข่อีกรอบ ตามด้วยการปิดท้ายด้วยเกล็ดขนมปังเป็นชั้นสุดท้าย ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการทอด โดยการตั้งกระทะใส่น้ำมัน แล้วเปิดไฟกลาง ไม่ต้องให้น้ำมันร้อนมาก จากนั้นนำตัวชีสบอลของเราลงไปทอด คอยคนให้สีเหลืองทองครบเท่ากันทุกด้านแล้วจึงนำขึ้นมาพักสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นนำขึ้นภาชนะที่เราจัดเตรียมกันไว้ได้เลย แล้วจึงเพิ่มความอร่อยโดยการปรุงรสชาติให้มีความหวานและนัวขึ้น โดยการใส่ผงเขย่า กลิ่นข้าวโพด ชีสโตะจังลงไป เพิ่มความหวาน นัว เค็มนิด ๆ รสชาติติดปลายลิ้น มีกลิ่นที่หอมข้าวโพด ทีนี้ก็สามารถเสิร์ฟให้กับลูกค้าที่น่ารักของเรากันได้เลย รับรองว่าลูกค้าต้องติดใจในรสชาติอาหารของเราแล้วกลับมาใช้บริการใหม่อีกครั้งกันอย่างแน่นอน

6. ผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง ผงปรุงรส ผงเขย่ายอดนิยมอีกรสชาติหนึ่งของชีสโตะจัง เป็นที่รู้จักกันในชื่อของบาร์บิวคิว นิยมนำมาปรุงแต่งรสชาติอาหารหลากหลายประเภท ทั้ง ปิ้งย่าง นึ่ง อบ ทอด และอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวผงนั้นจะมีรสชาติที่เข้มข้น หอม อร่อย มีความหวาน เค็ม นัว และกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่พอดีและไม่ฉุนจนเกินไป ชวนให้ทุกคนได้ลิ้มลอง บอกได้เลยว่าติดใจ ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน ด้วยความที่ตัวผงถูกผลิตคิดค้นออกมาให้มีความละเอียดสูง ทำให้ตัวของผงนั้นเคลือบติดอยู่กับตัวเมนูอาหารของเราได้ง่าย นิยมในหมู่พ่อค้าแม่ค้า และบุคคลทั่วไปที่นำผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจังไปประกอบอาหารชนิดต่าง ๆ โดยที่ตัวของผงนั้นจะมีน้ำตาลอย่างเห็นได้ชัด บ่งบอกและแสดงอัตลักษณ์ของความเป็นบาร์บิคิวออกมาทั้งสีทั้งกลิ่นและรสชาติได้อย่างดีเยี่ยม สามารถใช้คู่กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเพียวฟู้ดส์และชีสโตะจังได้ด้วย เช่น การนำเอาชีสดิป มายองเนส รสเผ็ดแซ่บ ซี๊ดของเพียวฟู้ดส์มาประกอบด้วยเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนให้รสชาติบาร์บิคิวของผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง หรืออาจจะนำเอาชีสโตะ รสพิซซ่าของชีสโตะมาใช้ควบคู่ให้กลายเป็นรสชาติพิซซ่าบาร์บิคิวก็นับว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวกันเลยทีเดียว

โดยเมนูยอดฮิตที่นิยมนำผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง ไปใช้ในการปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาอร่อย น่าทาน เข้มข้น หอม มีความหวาน เค็ม นัว และกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่เราจะขอนำมาแนะนำ ได้แก่ ไก่เสียบไม้ปิ้งบาร์บิคิว หรืออาจจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดอื่นก็ได้ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อปลา และอีกมากมาย รวมถึงตัวผักและผลไม้ที่เสียบเข้าไปบนไม้ร่วมกับตัวเนื้อสัตว์ของเราด้วย ช่วยพิ่มความเข้มข้น อร่อยให้กับตัวบาร์บิคิวของเราได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และนอกจากบารฺบิคิวก็ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น เมนูของทอด เฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด นักเก็ตไก่ ผักทอด เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้สามารถผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันได้ ก็จะเกิดเป็นความอร่อยอีกแบบที่ไม่ซ้ำใคร ได้ทั้งความเข้มข้น หอม อร่อย มีความหวาน เค็ม นัว และกลิ่นหอมเครื่องเทศของความเป็นบาร์บิคิวที่จะมีความรมควันนิดหน่อย สามารถนำไปทำเพื่อรับประทานเองได้ง่าย ๆ จะทำขายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยที่ตัวผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายให้พ่อค้า แม่ค้า และร้านค้าภัตตาคารของทุกคนได้อย่างแน่นอน อีกทั้งตัวผลิตภัณฑ์ยังเป็นถุงแบบซิปล็อค สามารถเก็บได้ง่ายหลังจากการนำมาประกอบอาหาร และสามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 12 เดือน หรือเป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็ม ๆ กันเลยทีเดียว จึงสะดวกต่อการบริโภคมาตุนไว้ใช้อย่างมาก

ซึ่งผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง จะมีขนาดเดียว นั่นก็คือ ขนาด 90 กรัม เป็นขนาดที่สำหรับใช้ประกอบอาหารรับประทานกันเอง สำหรับพ่อบ้าน แม่บ้าน ครัวเรือน หรือร้านอาหารที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เหมาะแก่การพกพาเพราะด้วยขนาดที่เล็ก กะทัดรัดไม่ใหญ่จนเกินไป สะดวกต่อการนำมาใช้ประกอบอาหาร เป็นถุงซิปล็อคที่ง่ายต่อการจัดเก็บ และสามารถกะปริมาณให้พอดีกับอาหารที่เราขายได้ในแต่ละวันได้ง่าย โดยสามารถจัดเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานานถึง 1 ปีเต็มกันเลยทีเดียว

โดยเราจะขอเสนอเมนูที่ทำจากผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง นั้นก็คือ บาร์บิคิวเนื้อวัว นั่นเองโดยที่วัตถุดิบของเราทั้งหมดที่ต้องเตรียมนั้น จะมีดังนี้ ได้แก่ เนื้อวัวที่เป็นพระเอกของเมนูนี้ และส่วนของผักผลไม้ ได้แก่ พริกหวาน มะเขือเทศจินดา สับปะรด ซอสบาร์บิคิว และที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง โดยเริ่มจากการหั่นทุกอย่างให้เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นนำทุกอย่างที่เราหั่นไปเสียบเข้ากับไม้เสียบลูกชิ้น โดยเรียงลำดับการเสียบตั้งแต่ สับปะรด เนื้อวัว พริกหวาน เนื้อวัว แล้วก็มะเขือเทศจินดา โดยที่ตัวมะเขือเทศจะอยู่บนสุดของไม้ สับปะรดจะอยู่ด้านล่างสุดของไม้ เพราะสับปะรดจะได้เป็นตัวล้างปากปิดท้ายทำให้เกิดความสดชื่น และเมื่อเสียบทุกอย่างเข้าไม้เสร็จแล้วเรียบร้อยก็นำไปปิ้งบนเตาปิ้งพร้อมกับทาซอสบาร์บิคิวไปด้วยเรื่อย ๆ จนกว่าทุกอย่างจะสุกดี จากนั้นก็นำขึ้นมาใส่ถุง หรือภาชนะอื่น ๆ ที่เราเตรียมไว้ แล้วก็จัดการโรยผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจังของเราลงไปเพื่อเพิ่มความเข้มข้น หอมอร่อยของรสชาติบาร์บิคิวกันได้เลย ตัวผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง จะช่วยตกแต่งตัวบาร์บิคิวเนื้อวัวของเราให้ดูมีสีสัน มีรสชาติอร่อย และน่าทานขึ้นแบบเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับทำเพื่อรับประทานกันเองเวลาที่ไปตั้งแคมป์ เป็นบรรยากาศดี ๆ ของการตั้งแคมป์ หรืออาจจะนำไปขายก็ได้กำไรดี เนื่องจากเป็นเมนูที่ยอดฮิต ผู้คนรู้จักกันเยอะ จึงเพิ่มโอกาสในการค้าขายให้ขายได้ขายดีเพิ่มขึ้นไปอีก

และอีกเมนูที่อยากแนะนำให้ลองนำไปทำเพื่อค้าขายและกอบโกยกำไรกันก็คือ ผักชุบแป้งทอดบาร์บิคิว เพื่อที่จะได้ฉีกกฎของเมนูอาหาร เนื่องจากว่าพอพูดถึงความเป็นบาร์บิคิวแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงความเป็นเนื้อ อาจจะเป็นไส้กรอกต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการนำผงปรุงรสบาร์บิคิวมาใช้ประกอบเมนูที่เป็นผักกันบ้าง นอกจากตัวเมนูนี้จะได้ความอร่อยของความเป็นของทอดแล้ว ยังได้ประโยชน์จากการรับประทานผักกันอีกด้วย เหมาะสำหรับเด็ก ๆ บุคคลทั่วไป และผู้ที่กำลังจะเริ่มหัดทานผักกัน ซึ่งผักที่นำมาทอดนั้นไม่ควรจะเป็นผักที่มีน้ำเยอะ ตัวอย่างเช่น แตงกวา มะเขือเทศ เป็นต้น เนื่องจากเวลาที่เรานำไปทอด ตัวของน้ำในผักชนิดนั้น ๆ นั้นจะออกมาปนกับน้ำมันตอนที่กำลังทอด เป็นสาเหตุทำให้น้ำมันกระเด็นจนเกิดการบาดเจ็บได้ โดยหลัก ๆ แล้วผักชุบแป้งทอดจะใช้วิธีการชุบแบบเป็นใบ ๆ เช่นตำลึง ผักกาดหอม สำหรับผักหัวใช้วิธีการหั่นสไลด์ให้มีความบางตามที่ต้องการ หรือใช้วิธีการขูดฝอยเช่นไชเท้า มะละกอ สามารถนำมาชุบแป้งทอดแล้วทานกันได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนำไปจิ้มกับน้ำจิ้มไก่ ชีสดิปรสชาติต่าง ๆ ชองเพียวฟู้ดส์และชีสโตะ ชีสโตะจัง แต่ที่เราจะนำมาแนะนำในที่นี้นั่นก็คือ การนำไปคลุกกับผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจังเพื่อเพิ่มความเข้มข้น หอม อร่อย มีความหวาน เค็ม นัว และกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่เป็นจุดเด่นของบาร์บิคิว โดยส่วนผสมก็จะมีดังนี้ ได้แก่ ผักตามใจชอบ แป้งทอดกรอบ ไข่ไก่ พริกไทย เกลือป่น น้ำมัน น้ำเย็น และที่ขาดไม่ได้เลยคือผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง เพื่อที่จะปรุงรสชาติผักทอดของเราให้ออกมาอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการผสมตัวของแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นจัด โรยเกลือป่นและพริกไทยเล็กน้อย ตีไข่ไก่ที่เตรียมไว้แยกไปอีกหนึ่งชาม แล้วจึงนำผักที่เราหั่นเตรียมไว้เป็นชิ้นพอดีคำใส่ลงไปในชามที่ผสมแป้ง แล้วจุ่มไข่ แล้วนำมาคลุกกับแป้งทอดกรอบของเราอีกหนึ่งที ทำให้ครบทุกชิ้น จากนั้นเตรียมกระทะตั้งน้ำมันไฟกลาง ไม่ต้องร้อนจนเกินไป นำแล้วนำผักชุบแป้งที่เราเตรียมไว้ลงไปทอดในน้ำมันกันได้เลย โดยการทอดให้แป้งมีสีที่เหลืองอ่อนกำลังดี ไม่ต้องทอดนาน เนื่องจากการที่ผักโดนความร้อนนานเกินไป จะทำให้ตัวของผักนั้นสลดหรือเรียกอีกอย่างว่าสุกเกินไป อาจจะทำให้ผักบางชนิดนั้นไม่เด้งกรอบ หรืออาจจะทำให้ผักของเราเละไปเลยก็ได้ และเมื่อทำการทอดเสร็จแล้วก็นำขึ้นมาพักเพื่อสะเด็ดน้ำมันให้หมาด จัดน้ำขึ้นภาชนะที่เราเตรียมไว้ แล้วก็ทำการโรยผงเขย่า รสบาร์บีคิว ตราชีสโตะจัง เครื่องปรุงรสตัวหลักของเราลงไปได้เลย สามารถนำไปขายในตลาดนัด หรือขายหน้าโรงเรียน ก็ได้กำไรดี คืนทุนให้พ่อค้าแม่ค้า และร้านค้าอาหารของเราได้เร็วอย่างแน่นอน เพราะด้วยความที่ผักนั้นมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ส่งผลให้เราใช้เงินทุนในการเปิดกิจการน้อยลงไปด้วย

สรุปแล้ว การที่เราจะเลือกผงปรุงรส ผงเขย่า สำหรับร้านค้า ร้านอาหารอาหารของเรานั้น จำเป็นต้องดูจากปัจจัยหลากหลายอย่างตามที่กล่าวมาทั้งหมด ตั้งแต่การเลือกให้สอดคล้องกับอาหารในร้านของเรา วิเคราะห์จากคุณภาพและราคา การใส่ใจในรสชาติของผงปรุงรสที่เราเลือกที่จะนำมาใช้ รวมถึงส่วนผสมของผงปรุงรส ผงเขย่ารสชาตินั้น ๆ ไปจนถึงการตรวจสอบว่าผงปรุงรส ผงเขย่าแบรนด์ดังกล่าวได้รับการรับรองว่าได้มาตรฐานอย่างของเพียวฟู้ดส์ และชีสโตะ ชีสโตะจังหรือไม่ แล้วจึงวิเคราะห์ตัวบรรจุภัณฑ์ของผงปรุงรส ผงเขย่าจากความสะดวกของเรา และเลือกจากความคุ้มค่า โดยการวิเคราะห์ว่าหนึ่งรสชาติสามารถใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายแบบไหม และเราจะเอาไปใช้ทำอาหารอะไร โดยอาจจะใช้วิธีการสำรวจตลาด และความนิยมของผู้บริโภคในช่วงเวลานั้น ประกอบการตัดสินใจของคุณพ่อค้าแม่ค้าอีกทีนึงก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้จริง และเห็นผลจริง เป็นประโยชน์ให้กับ พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ภัตตาคาร และผู้ที่กำลังคิดจะเปิดกิจการ ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร นับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ธุรกิจของเราให้ออกมาดี สร้างกำไร สร้างรายได้มากมายเป็นกอบเป็นกำได้อย่างแน่นอน